ธปท.เกาะติดแบงก์แก้หนี้ระยะยาว ปล่อยสินเชื่อฟื้นฟูแล้ว 1.46 แสนล้าน

เศรษฐกิจ (ในประเทศ - ต่างประเทศ)

ธปท.เปิดความคืบหน้ามาตรการช่วยลูกหนี้จากโควิด-19 ลูกหนี้เข้าโครงการ 5.91 ล้านบัญชี ภาระหนี้ 3.6 ล้านล้านบาท พบสัญญาณลดลง เผยแบงก์ออกมาตรการแก้หนี้ระยะยาว ด้านสินเชื่อฟื้นฟูปล่อยกู้แล้ว 1.46 แสนล้านบาท พักทรัพย์พักหนี้ 3.49 หมื่นล้านบาท กลุ่มโรงแรม-โรงงาน-อาหาร คาดมีเจรจาอีกหลายราย พร้อมเกาะติดมาตรการ “รวมหนี้-รีไฟแนนซ์” หวังลดภาระดอกเบี้ยลูกหนี้

วันที่ 27 มกราคม 2565 นางสาวสุวรรณี เจษฎาศักดิ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายนโยบายและกำกับสถาบันการเงิน 2 ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า สำหรับความคืบหน้ามาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ในส่วนของเติมเงินใหม่ผ่านมาตรการสินเชื่อฟื้นฟู ณ วันที่ 24 ม.ค. 65 พบว่า ยอดสินเชื่อที่ได้รับการอนุมัติแล้วทั้งสิ้น 1.46 แสนล้านบาท จำนวนผู้ที่ได้รับความช่วยเหลือ 4.49 หมื่นราย วงเงินอนุมัติเฉลี่ย 3.2 ล้านบาทต่อราย โดยสัดส่วนประมาณ 41.6% เป็นธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) และกระจายไปในกลุ่มค้าปลีกและบริการ ซึ่งคาดว่าวงเงินเหลือ 1 แสนล้านบาทน่าจะเพียงพอ

 

ขณะที่โครงการพักทรัพย์ พักหนี้ มียอดการอนุมัติสินเชื่อเข้าร่วมโครงการแล้ว 3.49 หมื่นล้านบาท คิดเป็นจำนวนผู้ได้รับความช่วยเหลือ 266 ราย โดยส่วนใหญ่จะเป็นลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 เช่น กลุ่มโรงแรม โรงงาน โรงพยาบาล ร้านอาหาร และสปา เป็นต้น ทั้งนี้ มีผู้ประกอบธุรกิจหลายแห่งให้ความสนใจและอยู่ระหว่างการเจรจากับเจ้าหนี้สถาบันการเงิน

สำหรับมาตรการแก้หนี้เดิม โดย ณ 30 พ.ย. 64 ภาพรวมการให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ครัวเรือนและลูกหนี้ธุรกิจรวมอยู่ที่ 5.91 ล้านบัญชี คิดเป็นภาระหนี้มูลค่า 3.6 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นธนาคารพาณิชย์ 2.01 ล้านบัญชี มูลค่า 2.09 ล้านล้านบาท และสถาบันการเงินเฉพาะกิจ 3.09 ล้านบัญชี มูลค่า 1.51 ล้านล้านบาท

“เราจะเห็นยอดการช่วยเหลือสูงสุดในช่วงเดือน ก.ค. 63 และทยอยปรับลดลงมา และกลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้งในเดือน เม.ย.-พ.ค.ที่มีการระบาดรอบใหม่ก่อนจะมีมาตรการพักหนี้ 2 เดือน และในเดือน พ.ย.-ธ.ค.ตัวเลขเริ่มลดลง ซึ่งจากการสอบถามแบงก์พบว่าลูกค้าทยอยกลับมาชำระปกติ ทำให้เราไม่เห็นหนี้เอ็นพีแอลเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ ธปท.ยังมีช่องทางด่วนแก้หนี้ จำนวน 2.54 แสนบัญชี คิดเป็น 76% ที่ได้รับการแก้หนี้ และปัจจุบันขยายไปสู่ลูกค้าธุรกิจ ขณะที่ คลินิกแก้หนี้ ลูกหนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล จำนวน 7.02 หมื่นบัญชี คิดเป็น 88% ของจำนวนผู้เข้าเงื่อนไข (ยอดสะสม 1 มิ.ย. 60-30 พ.ย. 64) และมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้ บัตรเครดิต-สินเชื่อบุคคล 2.19 แสนบัญชี คิดเป็น 72% ของจำนวนผู้เข้าเงื่อนไข และเช่าซื้อจำนวน 9,608 บัญชี หรือ 75% ของจำนวนผู้เข้าเงื่อนไข

และสินเชื่อ Digital P-loan ณ วันที่ 31 ธ.ค. 64 มีผู้ได้รับอนุมัติ 8 ราย เพิ่มขึ้นจากช่วงต้นปี’64 ที่มีเพียง 1-2 ราย โดยปัจจุบันมีผู้ประกอบการปล่อยสินเชื่อจำนวน 4 ราย และผู้ได้รับสินเชื่อจำนวน 7.46 แสนราย ยอดสินเชื่อคงค้าง 3,868 ล้านบาท ยอดหนี้เฉลี่ย 5,100 บาท

ส่วนมาตรการแก้หนี้ระยะยาว หรือมาตรการ 3 ก.ย. 64 ปัจจุบันธนาคารพาณิชย์ทุกแห่งได้ออกมาตรการแก้หนี้เรียบร้อยแล้ว ซึ่ง ธปท.ได้มีการกำหนดกลุ่มเป้าหมายแต่ละกลุ่มให้กับสถาบันการเงิน เช่น กลุ่มสีแดง สีเขียว และสีเหลือง โดย ธปท.ติดตามอย่างใกล้ชิด เช่นเดียวกับมาตรการรวมหนี้ และรีไฟแนนซ์ ปัจจุบันธนาคารมีโปรดักต์โปรแกรมออกมาแล้ว และมีลูกค้าที่ได้เข้าโครงการแล้ว

“มาตรการรวมหนี้เราได้ติดตาม และได้ขอดูเคสจริง พบว่าภาระดอกเบี้ยลูกค้าลดลงจากบัตรเครดิตและบุคคลที่ดอกเบี้ย 20% ปรับลดลงมาเหลือ 10% ซึ่งช่วยลดภาระลูกหนี้ และไม่ติดประวัติ จึงอยากให้ลูกค้าเร่งเจรจากับสถาบันการเงินก่อนเป็นหนี้เสีย”

อ้างอิง
https://www.prachachat.net/finance